E-Marketingย่อมาจากคาว่าElectronic
Marketingหรือเรียกว่า“การตลาดอิเล็กทรอนิกส์”หมายถึงการดาเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ที่ทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งาน เข้ามาเป็นสื่อกลาง ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์ หรือพีดีเอ ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยอินเทอร์เน็ต
มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดาเนินกิจกรรมทางการตลาด
อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง
คุณลักษณะเฉพาะของe-Marketing
- - เป็นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในลักษณะเฉพาะเจาะจง(Niche
Market)
- - เป็นลักษณะเป็นการสื่อสารแบบ2ทาง(2WayCommunication)
- - เป็นรูปแบบการตลาดแบบตัวต่อตัว(One
to One Marketing หรือ Personalize Marketing)ที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถกำหนดรูปแบบสินค้าและบริการได้ตามความต้องการของตนเอง
- - มีการกระจายไปยังกลุ่มผู้บริโภค
(Dispersionof
Consumer)
- - เป็นกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถสื่อสารไปยังทั่วทุกมุมโลกตลอด24ชั่วโมง(24BusinessHours)
- - สามารถติดต่อสื่อสารโต้ตอบปฏิสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว(Quick
Response)
- - มีต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิผลสามารถวัดผลได้ทันที(Low
Costand Efficiency)
- - มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการตลาดแบบดั้งเดิม(RelatetoTraditionalMarketing)
- - มีการตัดสินใจในการซื้อจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ(PurchasebyInformation)
ลักษณะการนำ E-Business มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้แก่
- - การเชื่อมต่อระหว่างกันภายในองค์กร
(Intranet)
- - การเชื่อมต่อระหว่างกันกับภายนอกองค์กร
(Extranet)
- - การเชื่อมต่อระหว่างกันกับลูกค้าทั่วโลก
(Internet)
4 4. กำหนดแนวความคิดและรูปแบบ หาจุดขาย
ลูกเล่น
7 7. วัดผลและประเมินผลลัพธ์
Distinguishing
between e-marketing, e-business and e-commerce
ป ประโยชน์ของ e-Marketing
นักการตลาด Smith and Chaffey มองว่าE-Marketingเป็นกระบวนการในการจัดการทางการตลาดโดยมีการเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญแก่ลูกค้าเป็นหลักในขณะที่แสดงถึงการเชื่อมโยงการทางานทางธุรกิจในอันที่จะช่วยสร้างความสำเร็จในผลกาไรให้กับธุรกิจซึ่งสามารถแบ่งกระบวนการในการจัดการทางการตลาดได้ดังนี้
- - การจำแนกแยกแยะ(Identifying)สามารถทำการจำแนกแยกแยะได้ว่าลูกค้าเป็นใครมีความต้องการอย่างไรอยู่ที่ไหนและมีพฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าอย่างไร
- - เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำE-Marketing
- - สนองความพอใจของลูกค้า(Satisfying)ถือเป็นความสำเร็จในการทำE-Marketingในการสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์
ป ประโยชน์ของการนา e-Marketing
มาใช้ 5Ss’
S Smith and Chaffey ยังได้กล่าวถึง 5Ss’ ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากการนาเอากลยุทธ์การตลาดออนไลน์มาใช้ได้แก่
- - การขาย(Sell)ช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากการทาการตลาดออนไลน์
- - การบริการ(Serve)การสร้างประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นให้แก่ลูกค้าจากการใช้บริการผ่านออนไลน์
- - การพูดคุย(Speak)การสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้นโดยสามารถสร้างแบบสนทนาการโต้ตอบกันได้ระหว่างกันได้(Dialogue)
- - ประหยัด(Save)การสร้างความประหยัดเพิ่มขึ้นจากงบประมาณการพิมพ์กระดาษโดยสามารถใช้วิธีการส่งจดหมายข่าวE-Newsletterไปยังลูกค้าแทนการส่งจดหมายแบบดั้งเดิม
- - การประกาศ(Sizzle)การประกาศสัญลักษณ์ตราสินค้าผ่านออนไลน์ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสินค้าของเราให้เป็นที่รู้จักมีความคุ้นเคยมากยิ่งขึ้น
ห หลักการของ e-Marketing
- - การตลาดยุคEเน้นการใช้ Mass Customization มากกว่า Mass
Marketin เน้นระบบที่สนองต่อความต้องการของลูกค้าแต่ละคนเป็นหลักโดยให้แต่ละคนสามารถเลือกทางเลือกที่สนองความต้องการได้ด้วยตนเอง
- - การแบ่งส่วนตลาดต้องเป็นแบบ Micro Segmentation หรือ One-to-One Segmentationหมายถึงหนึ่งส่วนตลาดคือลูกค้าหนึ่งคนเพราะในตลาดบนเว็บถือว่าลูกค้าเป็นใหญ่เนื่องจากมีสิทธิ์ที่เลือกซื้อสินค้าปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญมากหรือในแง่ของการจัดการแล้วเราเรียกว่าCRMหรือ Customer Relationship Managementจะทำให้ทราบว่าใครคือลูกค้าประจำ
- - การวางตำแหน่งสินค้า(Positioning)ต้องเป็นไปตามความต้องการแต่ละบุคคลหรือ Migrationingการวางตำแหน่งสินค้าเพื่อให้ลูกค้ารับรู้นั้นต้องวางตามความต้องการของแต่ละบุคคลและหากความต้องการนั้นเปลี่ยนไประบบก็ต้องเคลื่อนตำแหน่งของการวางนั้นไปสนองตอบต่อความต้องการใหม่ด้วย
- - เป็นหนึ่งในเว็บที่ลูกค้าจำได้การสร้างความจดจำเพื่อให้จำเว็บไซต์เราการจดชื่อโดเมนที่ทำให้จดจำง่ายหรือมีความหมายที่สอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่จาเป็นมาก
- - ต้องรู้ความต้องการลูกค้าล่วงหน้าจำเป็นจะต้องติดตามพฤติกรรมการซื้อของกลุ่มเป้าหมายโดยตลอด
- - ต้องปรับที่ตัวสินค้าและราคาเป็นหลักสินค้าถือเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเทียบกับคุณค่าของสินค้าและคู่แข่งเสมอว่าใครสนองตอบต่อความต้องการได้ดีกว่ากัน
- - ต้องให้ลูกค้าตกแต่งสินค้าตามความต้องการได้โดยอัตโนมัติ
(Customization
& Personalization)วิธีที่ให้ลูกค้าได้รับคุณค่าหรือสนองความต้องการได้ดีที่สุดก็คือการให้ลูกค้าได้เลือกหรือตกแต่งสินค้าเองรวมทั้งการคำนวณราคามีOptionsให้ลูกค้าได้เลือกมากที่สุดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เ เครื่องมือที่สำคัญของการตลาดอิเล็กทรอนิกส์
- - Digitaladvertising
- - RaidMarketing
- - e-mailMarketing
- - VideoMarketing
- - Blogging
- - Mobilemarketing
- - PayPerClick
- - SearchEngineOptimization
- - SocialMediaMarketing
ส่ ส่วนผสมทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์
- - ผลิตภัณฑ์(Product)
- - ราคา(Price)
- - สถานที่(Place)
- - การส่งเสริมการขาย(Promotion)
- - เครือข่ายสังคม(Social
Network)
- - การขายบนเว็บไซต์
- - การบริการลูกค้า
- - ระบบป้องกันความปลอดภัย
- - ระบบฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อนามาใช้ในการบริการ(Personalization
Service)
e e-Marketing Planning
t The SOSTAC™ framework developed by Paul Smith (1999) 6ขั้นตอน คือ
1 1.Situation –where are we now?
2 2. Objectives –where do we want to be?
3 3. Strategy –how do we get there?
4 4.Tactics –how exactly do we get there?
5 5. Action –what is our plan?
6 6. Control –did we get there?
7 7 ขั้นตอนสาหรับการทา e-Marketing
1 1.กำหนดวัตถุประสงค์ (Set
Objective)การจัดทาเว็บไซต์ต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของธุรกิจ
- - เพื่อสร้างยอดขาย(SalesandAcquisition) การนาe-Marketingมาใช้เพื่อให้เกิดผลกระทบในการเพิ่มยอดขายโดยตรงกับธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- - เพื่อสร้างภาพลักษณ์(Image)
ลักษณะภาพลักษณ์ที่ดีมีดังนี้
1.สร้างขึ้นมาให้ดูง่ายจดจาง่าย
2.ดูมีความน่าเชื่อถือก่อให้เกิดความประทับใจ
3.เป็นรูปธรรมและมองเห็นได้อย่างชัดเจน
4.อยู่ระหว่างความคาดหวังและความเป็นจริงควรเป็นไปในเชิงบวก
5.เป็นสินทรัพย์ของธุรกิจ
- ให้บริการและเพื่อสนับสนุนการขาย
(ServiceandSupport) เป็นช่องทางสาหรับบริการหลังการขายแก่ ลูกค้าเน้นในด้านการให้บริการภายในเว็บไซต์โดยสร้างการติดต่อสื่อสารขึ้นระหว่างกัน
- - การสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จัก (BrandAwareness) ทำให้ลูกค้าจดจำได้ (Recognition) และระลึกถึงเป็นชื่อแรก(Recall)เมื่อต้องการจะซื้อสินค้า
- - การรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน (Customer
Retention) การรักษาความพอใจให้คงอยู่ซึ่งกระบวนการนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
(Customer Relation Management :CRM)
- - การสร้างความจงรักภักดีในตราสินค้า(Brand
Royalty) คือการที่ลูกค้ารักและเกิดความศรัทธาในตราสินค้าของธุรกิจและยากที่จะทาให้ลูกค้าเกิดการเปลี่ยนใจที่จะไปซื้อสินค้าอื่นแทน
2 2.การกาหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธี 5W+1H
- Who (ใคร) ลูกค้าคือใครเป็นข้อมูลของลูกค้าซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อวางแผนการตลาดหรือสร้างสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ถูกต้อง
- What (อะไร) อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อทราบอุปสงค์
(demand)และความปรารถนาภายในใจ(willing)ของลูกค้าว่าสินค้าหรือบริการรูปแบบไหนที่ลูกค้าต้องการ
- Where (ที่ไหน) ลูกค้าอยู่ที่ไหนเป็นคาถามเชิงภูมิศาสตร์เพื่อทราบถึงสภาพแวดล้อมวัฒนธรรมภาษาและเชื้อชาติของกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นเช่นไรเพื่อให้ทราบว่าจะหาลูกค้าได้จากไหนบ้างและที่ไหนคือที่ๆลูกค้ามักจะไปอยู่และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ด้วยวิธีอะไร
- When (เมื่อไร ) เมื่อไรที่ลูกค้าต้องการเราเราควรทราบถึงความต้องการว่าในช่วงเวลาไหนที่ลูกค้าต้องการซื้อหรือใช้บริการและต้องการบ่อยเพียงใด
- Why (ทำไม) ทำไมลูกค้าต้องมาที่เราเป็นคำถามเชิงเหตุผลว่าเหตุใดลูกค้าถึงได้เข้ามาซื้อสินค้าจากเราอาจเป็นเงื่อนไขในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง
- How (อย่างไร)เราสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไรเป็นคำถามเชิงวิธีการหรือหนทางในการรักษาฐานลูกค้าเก่าหรือเพิ่มยอดขายจากลูกค้ารายใหม่
3 3.วางแผนงบประมาณ มีเงินเท่าไร จะใช้เท่าไร
- ทำงบประมาณตามสัดส่วนจากการขาย
- ทำงบประมาณตามสภาพตลาด
- ทำงบประมาณตามวัตถุประสงค์
- ทำงบประมาณตามเงินทุน
เ เป็นการสร้างแนวความคิดที่แปลกใหม่น่าสนใจให้กับเว็บไซต์โดยเป็นการสร้างจุดเด่นหรือจุดที่แตกต่างกับเว็บอื่นๆทำให้เกิดเอกลักษณ์ของเว็บไซต์การออกแบบเว็บที่โดดเด่นหรือเนื้อหาในเว็บทาให้ผู้อ่านสนใจแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยืนอยู่บนเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่เราตั้งใจไว้เป็นสำคัญ
5 5. การวางแผนกลยุทธ์ และสื่อ ช่วงเวลา
เ เป็นการเลือกสรรวิธีหรือกลยุทธ์ที่ใช้สาหรับการทาการตลาดออนไลน์ว่าควรเลือกใช้สื่อรูปแบบใดดีโดยดูที่วัตถุประสงค์เป็นหลักเช่นการโฆษณาผ่านหน้าเว็บในรูปแบบต่างๆ,การตลาดผ่านระบบค้นหา,การตลาดผ่านอีเมล์,การตลาดผ่านเว็บบล็อก
6 6. การดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้
เทคนิคการเตรียมตัวก่อนการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ดังนี้
1 1. เช็คว่าพร้อมหรือยัง? ด้วยกลยุทธ์6C
2 2. มีเอกลักษณ์หรือจุดเด่นของเว็บไซต์เช่นแนวความคิดพื้นฐานของตัวเว็บไซต์ที่โดดเด่นมีความสอดคล้องกับตราสินค้าหรือบริการหลักของธุรกิจ
3 3. การสร้างช่องทางการเก็บข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เช่นการลงทะเบียนสมาชิกแบบสอบถามออนไลน์บริการการรับข่าวสารทางอีเมล์เป็นต้น
เ เป็นวิธีการวัดผลความสำเร็จจากการทาแผนการตลาดว่ามีผลลัพธ์เช่นไรการดำเนินการทางการตลาดประสบความสำเร็จตามที่กำหนดมากน้อยเพียงใดโดยประเมินจากการเติบโตของยอดขายส่วนแบ่งทางการตลาดภาพลักษณ์ที่ลูกค้ามีต่อสินค้าหรือบริการกาไรฯลฯเพื่อเป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจการดาเนินตามแผนธุรกิจต่อไป
6 Cs กับความสำเร็จของการทำเว็บ
1 1. Content (ข้อมูล)
2 2. Community (ชุมชน, สังคม)
3 3. Commerce (การค้าขาย)
4. Customization (การปรับให้เหมาะสม)
5 5. Communication, Channel (การสื่อสารและช่องทาง)
6 6. Convenience (ความสะดวกสบาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น